Friday, October 28, 2011

การแสดงบทบาทสมมุติพิธีอัญเชิญพระเวสสันดร

  • เป็นผญาโต้ตอบระหว่างชาวเมืองกับพระเวสสันดรและพระนางมัทรี ลงท้ายด้วยกลอนลำ เรื่องพระเวสน์สันดรลาดง และพระนางมัทรีลาป่า ข้าพเจ้าเขียนจากเรื่องราวพระเวสสันดรในรูปแบบผญาและ กลอนลำ ทดลองใช้ในงานบุญพระเวสสันดรประจำปี ของวัดเจริญศิลป์ เรื่องนี้ทำเอาท่านผู้ชมผู้ฟังเช็ดน้ำหูน้ำตากันวุ่นวายครับพี่น้อง

ตัวละครในเรื่องนี้ประกอบด้วย

1. พระเวสสันดร คัดเลือกชายหนุ่มหน้าตาดี ความจำดี ท่องบทได้

2. พระนางมัทรี คัดเลือกหญิงสาวหน้าตาดี ความจำดี ท่องบทได้

หรือเลือกคู่สามีภรรยาที่หน้าดี หุ่นดี ให้บทไปท่องจำก่อนวันงาน 1 เดือน นัดหมายซ้อมบทอย่างน้อย 7 วันต่อหนึ่งครั้ง

3. พระเจ้ากรุงสญชัย คัดเลือกผู้ชายที่สูงอายุ เพราะแสดงเป็นพระบิดาพระเวสสันดร

4. พระนางผุสดี คัดเลือกผู้หญิงที่สูงอายุ เพราะแสดงเป็นพระมารดาพระเวสสันดร

5. กัณหา คัดเลือกเด็กผู้หญิง หน้าตาดี

6. ชาลี คัดเลือกเด็กผู้ชาย หน้าตาดี

7. ขบวนช้าง ถ้าไม่มีช้างจริง ใช้ช้างปลอมแทนก็ได้

8. ขบวนม้า ถ้าไม่มีม้าจริง ใช้ม้าปลอมแทนก็ได้

9. ขบวนรถ ถ้าไม่มีราชรถ ใช้รถเก๋ง รถกะบะ รถอีแต๋น รถหกล้อ รถสิบล้อแทนก็ได้

10. เสนาเท้า ชาวบ้านแต่งตัวเหมือนเสนา

11. ขบวนกลองยาว/ขบวนฟ้อนแห่

12. ผู้อัญเชิญพระเวสสันดรชาย คัดเลือกผู้ชาย ความจำดี ท่องบทได้

13. ผู้อัญเชิญพระเวสสันดรหญิง คัดเลือกผู้หญิง ความจำดี ท่องบทได้

14. หมอแคน

ผู้อัญเชิญพระเวสสันดรชายหญิงให้รับบทไปท่องจำก่อนวันงาน 1 เดือน นัดหมายซ้อมบทอย่างน้อย 7 วันต่อหนึ่งครั้ง

เมื่อถึงวันงานเวลาประมาณบ่าย 2 โมงให้ชายหญิงที่แต่งตัวเป็นพระเวสสันดรกับพระนางมัทรีไปรอตรงที่จัดไว้ใน ป่าใกล้หมู่บ้าน ชาวบ้านจัดขบวนแห่ไปรับ 5 ขบวน ได้แก่

1. ขบวนช้าง ประกอบด้วย พระเจ้ากรุงสญชัย พระนางผุสดี ชาลี และกัณหา

2. ขบวนม้า ประกอบด้วย ทหารขี่ม้าติดตามขบวนช้าง

3. ขบวนรถ ประกอบด้วยคณะผู้อัญเชิญ ถือขันอัญเชิญ

4. เสนาเท้า ประกอบด้วยขบวนแห่ชาวบ้านถือฉัตร ธง เดินแถว

5. ขบวนดนตรี ประกอบด้วย กลอง ฉาบ พิณ แคน ฟ้อน

เมื่อไปถึงให้พักขบวนทั้ง 5 ไว้ด้านนอก แล้วให้ชายหญิง 2 คนเข้าเชิญพระเวสสันดรกับพระนางมัทรีออกมานั่งบนสาดที่ชาวบ้านปูรอ ผู้ชายที่มาอัญเชิญยกขันอัญเชิญ(ขันดอกไม้) เข้าไปนั่งคุกเข่าข้างหน้าพระเวสสันดร แล้วกล่าวคำอัญเชิญดังนี้

…………………………

ผู้ชายกล่าวเชิญ :

………………………..

นับแต่ราชาเจ้า เหนือหัวองค์พระเวส

เข่าในเขตป่ากว้าง ชาวบ้านกะหงอยเหงา

งัวควายช้าง หมูหมาเป็ดไก่

ฝูงหมู่สัตว์ใหญ่น้อย กินหน่อยจ่อยหลาย

เพราะเขาทุกข์ยากไฮ้ ไห่ฮ่ำคะนิงหา

คึดอาลัยนำพระองค์ อยู่ยั่งคืนจนแจ้ง

เมืองสีพีเกิดฝนแล้ง ไฮ่นากะแปนเปล่า

ขอเชิญพระบาทเจ้า คืนเข้าสู่นคร

….ขอเชิญข่าน้อย

……………………….

พระเวสสันดร :

………………………

เฮามันคนถ่อยฮ้าย ชาติชั่วอัปรีย์

ชาวสีพีพากันชัง ทั่วเมืองเมิดสิ้น

ไผกะพาทีต้าน กล่าววาจาหุ่มด่า

เฮาเป็นคนชั่วช้า จังไฮฮ้ายกว่าผี

มีอิหยังกะทานให่ คนไปขอเกลี้ยงออยฮอย

ทั้งข่อยข่าม้าช้าง กะทานสิ้นบ่ยัง

จนพระคลังแปนแห่ง บ่มีเงินค้างไถ่

พระเวสคนถ่อยฮ้าย สิเอาไว้เฮ็ดอิหยัง

………พากันเมือสา….เฮาบ่เมือดอก

……………

ผู้หญิง :

…………..

ผู้ข้านบนอบไหว้ องค์เอกนาโถ

ขออย่าโกรธาขม เคียดแฮงให้ฝูงข่า

หมู่ข่าน้อย คนโง่ปัญญาเบา

อุปมาคือควายแล้ว แต่ไผสิดึงทื้น

สิดึงพาไปใต้ ไปเหนือกะแล้วแต่

คันบ่ไปแท้แท้ ผัดเอาแส้ใส่หลัง

ขอพระองค์จงตั้ง จิตโผดกรุณา

คืนเมือครองพารา ดังเดิมแต่คราวกี้

ขอให้ปราณีข้า ชาวประชาน้อมเหนี่ยวแน่ถ่อน

ขอให้พระบาทไท้ คืนเข่าสู่นคร

………………….ขออัญเชิญข่าน้อย

…………………….

พระนางมัทรี :

……………………

ชาวเมืองเอย…

อย่ามาติแถลงเว้า เฮาทั้งสองมันคนถ่อย

พวกไพร่น้อย ซังข่อยบ่อยากเห็น

ตั้งแต่คราวก่อนนั้น พากันไล่เฮาหนี

ว่าเป็นคนอับปรีย์ บ่มีดีพอดี้

พอเฮาหนีมาแล้ว กะยังตามมาไล่

คันแม่นไล่เทือนี้ สิไปลี้อยู่ไส

ยามใจดีตามมาเอิ้น ยามซังเฮาผัดขับไล่

เฮานี้เมือบ่ได้ ย้านหมู่เจ้าไล่หนี

…..ไป พากันเมือสา ข่อยบ่เชื่อหมู่เจ้าดอก

หรือพระเวสเพิ่นสิเมือนำหมู่เจ้ากะเมือโลด ข่อยสิขอตายอยู่เขาคีรีวงกตนี่หละ

……………………………….

ผู้ชายเชิญครั้งที่สอง :

……………………………..

ฝูงข่าน้อย คึดฮ่ำนำพระองค์

ย้านแต่ทรงความทุกข์ คันอยู่ในไพรกว้าง

ปวงสัตว์เชื้อ เสือสางช้างใหญ่

ยุงและฮี้น สิกินเจ้าอยู่ไพร

ย้านแต่พระบาทไท้ ทนเวทนาทุกข์

ฝูงข่าอุ้กในใจ คึดนำพระองค์เจ้า

เหนือหัวเจ้า องค์สญชัยพระเจ้าปู่

ผุสดีย่าเจ้า กะมาพร้อมพร่ำกัน

คันสองพระองค์บ่เห็นแก่หน่า กะให่เห็นแก่ตาสองหน่วย

เห็นแก่ปู่ย่าเจ้า ที่มาเว้าเหนี่ยววอน แน่ถ่อน

…………..ขออัญเชิญเสด็จกลับเมืองสีพีเฮา ข่าน้อย

………………………

พระเวสสันดร :

…………………….

มีแต่พวกหมู่เจ้า เว้าว่าวอนขอ

ขอฝ่ายเดียว เหนี่ยววอนอยู่คีค้อย

ส่วนว่าพ่อแม่ข่อย คำเดียวกะบ่เอ่ย

คันข่อยรับปากหมู่เจ้า เมือแล้วเพิ่นไล่หนี

ข่อยสิหนีไปลี้ ซ้นฮ่มเฮือนไผ

ข่อยอยู่ในไพรหลวง กะอยู่ดีบ่มีฮ้อน

หรือว่านงนางน้อง มัทรีนางสิกลับต่าว

กลับเมือนำหมู่เจ้า กะเชิญถ่อนข่อยบ่เมือ

……ไป พากันเมือสา มัทรีสิเมือนำขะเจ้ากะเมือโลด ข้อยอยู่เขาคีรีวงกตผู้เดียวกะได้

…………………………………………………..

ผู้ชายเชิญครั้งที่ 3 เป็นกลอนลำ(ลำยาว)ดังนี้

………………………………………………….

บัดนี้ นับแต่ราชาเจ้า องค์เหนือหัวองค์พระเวสน์

หนีออกจากเขตแคว้น ชาวบ้านกะจ่มหา

อันว่างัวควายพร้อม หมูหมาเป็ดไก่

ช้างและม้า ทางหญ่ากะบ่กิน

ต่างกะทุกขะเวทสิ้น ไห้ห่ำคนิงหา

แสนอาลัยนำพระองค์ หน่อเมืองสีพีกว้าง

ฝนบ่ตกนาฮ้าง เจ็ดปีขี่ดินไหง่

ขอวอนพระบาทไท้ เมือตุ้มไพร่เมือง

คันพระองค์คืนเมือห้อง ครองสีพีตุ้มไพร่

เมืองสีพีใหญ่กว้าง ฝนฟ้าสิซุ่มเย็น

ชาวสีพีเห็นพระองค์กลับเมืองแล้ว สิโฮแซวดีใจใหญ่

ฝูงอามาตย์ใหญ่น้อย สิคอยยิ้มซื่นบาน

พระบาทเจ้า สิชมชื่นยินดี

เมืองสีพีสิฮูงเฮือง ย้อนพระองค์พาสร้าง

ผู้ข้าวางขันดอกไม้ เชิญพระองค์พร้อมพร่ำ

ทั้งมัทรีแก่นไท้ เสด็จเข่าสู้นคร …

ขออัญเชิญเสด็จกลับเมืองสีพีเฮาถ่อน ข้าน้อย

………………………………………………………

พระเวสสันดรรับขันดอกไม้แล้วยืนขึ้น หมอแคนยืนขึ้นเป่าแคนทำนองลำยาว พระเวสสันดรลำลาป่าดง

…………………………………….

กลอนลำพระเวสสันดรลาดง

ทำนองลำยาว/แหล่

…………………………………….

มาบัดนี้..สิได้ลาสึกแล้วคืนเมือบ้านเก่า พ่อสญชัยเพิ่นมาเว้าให้คืนเข้าสู่นคร
ชาวสีพีเพิ่นมาอ้อน วอนเฮาเมือบ้านเก่า ให้เมืออยู่สืบเค้า เมืองบ้านให้ฮูงเฮือง
เรื่องเฮาทานช้างม้า เงินทองเพิ่นบ่ว่า ชาวพารายกให้ โมทนาถ้วนคู่สู่คน
จนใจต้องลาห้อง อาศรมที่เคยอยู่ ลาทั้งหมู่สาดเสื่อ หมอนมุ้งผ่าห่มนอน
ลาทั้งหมอนหนุนข้าง เคียงกายให้อายอุ่น บุญคุณมีมากล้น ยามหนาวได้อุ่นกาย
ขอลาสระใหญ่กว้าง โบกขรณีที่เคยเพิง เถิงยามแลงได้อาบเล่น ยามฮ้อนได้เพิงเย็น
ลาอีเห็นเสือช้าง งูทำทานป้องห่างห่าง แล่นนำทางมากล้น คนย้านสั่นสาย
เฮาสิผายเมือบ้าน เมืองสีพีบ้านเก่า ให้เจ้าอยู่สืบเชื้อ รักษาไม้ป่าดง
ขอลาพงไพรกว้าง นกชะนีหมีค่าง เคยนำทางสั่นหมากไม้ ให้นางเจ้าแม่มัทรี
ลาคีรีที่เคยซ้น ภาวนาทุกเช้าค่ำ บำเพ็ญธรรมสู่มื้อ หวังเป็นเจ้าหน่อพุทโธ
โตเฮามีมื้อนี้ กะย้อนว่าบุญคุณ สรรพสิ่งอุดหนุน จั่งได้มีวันนี้
คันบ่มีหมากไม้ เผือกมันอยู่ในป่า หาอาหารบ่ได้ ตายถิ่มตั้งแต่โดน
ขอบพระคุณอย่างเหลือล้น ต้นไม้ใหญ่ใบหนา ได้เพิ่งพาอาศัย ใบดอกผล ต้นแห้ง
เถิงยามแลงก่อไฟต้ม เผือกมัน ไว้มื้ออื่น ขอบคุณฟืนง่าไม้ ให้ไฟไหม้ ได้อุ่นกาย
คันบ่ตายสิมาเยี่ยม ทดแทนคุณ ทุกสิ่งอย่าง มื้อนี้เฮาสิได้ห่างไกลจากเจ้า เดินทางเข้า สู่นคร
จึงขออวยพรให้ สรรพสิ่ง ทั้งหลาย ที่เฮาเคยอาศัย ได้เพิ่งพา ในยามยาก
หากกรรมดีเคยทำไว้ ภาวนามัย ตั้งต่อ บุญเฮาก่อสืบสร้าง บำเพ็ญให่ ได้ส่องทาง
เป็นพลังบันดาลให่ สุขสำบาย ทุกสิ่งอย่าง เทิงเสือกวางช้างม้า ได้กินหญ้า อยู่ฮวมกัน
ป่าไม้นั้น ให้ต้นใหญ่ ใบหนา มวลหมู่ปลาในสระ ให้อยู่ดี อย่ามีฮ้อน
หนูพังพอนงูเห่าก้อม ฮักแพงกัน เด้อหละอุ่น บุญคุณเฮาสร้างไว้ ให้หมู่เจ้า ได้ทั่วกัน….เด้อ

นางมัทรียืนขึ้นลำลาป่าไม้

………………………………….

กลอนลำพระนางมัทรีลาป่า

ทำนองลำยาว/แหล่

………………………………….

จะมีหรือไม่ก็ได้ ให้พิจารณาตามความเหมาะสม

นางมัทรีฮ้องให้อาลัยป่าดงดอน บ่อนที่เคยอาศัยได้เพิงพายามฮ้อน

จึงได้สอนสั่งพร้อมอวยพรแถมตื่ม สิบ่ลืมคุณหมู่เจ้า ยามคืนเข้าสู่นคร

ลาก่อนเด้อลูกหล่านกชนีหมีค่าง เคยนำทางสั่นหมากไม้ ให้นางเจ้าแม่มัทรี

ลาคีรีป่ากว้างต้นไม้ใหญ่ใบหนา ลาปูปลาอยู่ในสระดอกบัวอยู่ในน้ำ

ลาหมากขามป้อมส้ม สม-มอกะยอป่า ยามแลงมานางแต่งให้พระองค์ได้นั่งเสวย

ลาหมากตูมที่เคยต้มเป็นยาดีแก้ท้องยืง ตำลีงทองขามแปเหม่าหมากนาวส้มแม่สิลา

กล้วยน้ำหว้า กล้วยตานี ทั้งกล้วยไข่ เคยอาศัยหมู่เจ้ากินแทนข้าวเป็นหมู่ลิง

ลาทั้งสิงเสือช้างกวางชนีหมีป่า ค่ำลงมามีหมู่เจ้าคอยเฝ้าอยู่รักษา

ลาทั้งเฟืองไฟส่ม กะยมยอค้อข่อย เถิงยามสุกให้หล่นพร้อม บ่ยอมพั้วให่บ่างกิน

ลากระถินขามหว้า ตูมกามี้ม่วง เถิงยามสุกให่อยู่ต้น บ่หล่นถิ่มใส่ดิน

ลาไปเมิดทั้งสิ้นสรรพสิ่งทั้งหลาย ที่เฮาเคยอาศัยได้เพิงพาในยามยาก

หากบ่มีหมู่เจ้าเฮาต้องตายมิหมี่ ที่เฮามีมื้อนี้ย้อนหมู่เจ้าให้เพิงพา

ขอผลาทานสร้างภาวนามัยตั้งต่อ บุญเฮาก่อสืบสร้างบำเพ็ญให้ได้ส่องทาง

เป็นพลังดลให้สุขสบายทุกสิ่งอย่าง ทั้งเสือกวางช้างม้าได้กินหญ้าอยู่ฮวมกัน

พังพอนนั้นให้ฮักแพงงูเห่า ผิดใจกันให้ค่อยเว้าอย่าฟ้าวฆ่าต่อยตี

กล้วยตีบต้นตีนเต่าหมูสี ให้อยู่ดียืนยาวอย่าฟ้าวลอนมายม้าง

มวลดอกไม้ให้ตูมบานปานแต้มแต่ง ส่งกลิ่นหอมทั่วป่าไม้แลงเช้าอยู่บ่วาย

ขออภัยที่ขุดค้นเคาะสอยต่อยเขย่า เอาหมากหัวหมู่เจ้ากินแทนข้าวสู่วัน

ให้เจ้ายืนยาวหมั่นหลายพันพันปีมีสุขยิ่ง สู่สวรรค์คิ้งนิ้งวิมานฟ้า บ่อนสำบาย… เด้อ ๆๆ

…………………………

ผู้แสดงเป็นพระเวสสันดรและนางมัทรีขึ้นนั่งบนหลังช้างที่เตรียม ไว้ ขบวนต่าง ๆ ที่เตรียมมาแห่พระเวสสันดรเข้าวัดที่จัดงานด้วยความสนุกสนานม่วนซื่นโฮแซว.

จบบริบูรณ์

0 comments:

Post a Comment

Twitter Delicious Facebook Digg Stumbleupon Favorites More

 
Design by I Love Fat